งานแกะสด...เหรียญพระเกจิ
ในยุคโบราณนั้นการแกะพิมพ์เหรียญเป็นเรื่องยุ่งยาก นอกจากจะใช้เวลานานมากแล้ว ยังต้องใช้ความพยายาม ความคิด และสมาธิ ของช่างใส่ลงไปด้วย ดังนั้นการแกะบล็อคในสมัยก่อนจะต้องเตรียมงานนานมากกว่าปกติในปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่จะใช้เวลาถึง 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับความชำนาญของช่าง โดยทางวัดหรือทางลูกศิษย์จะนำเพียงรูปถ่ายของพระอาจารย์นั้นๆไปให้กับช่างแกะพิมพ์
การแกะของช่างยุคแรกๆจะเป็นงานแกะสดมือล้วนๆ ส่วนงานปั๊นย่อนั้นทั่วไปยังไม่มี
จะต้องส่งงานไปทำจากต่างประเทศซ่ะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเราอาจจะได้เห็นเฉพาะเหรียญ ร.๕ ซึ่งเป็นงานปั้นย่อจากต่างประเทศทั้งหมด ส่วนในเมืองไทยเริ่มมีการทำงานปั้นย่อครั้งแรกๆในช่วง ร.๖ ส่วนถ้าเริ่มเห็นในงานปั้นย่อเหรียญพระจะเริ่มเห็นช่วงปีหลัง 2490
กลับมาในส่วนของงานแกะสดมีมาตั้งแต่แรกเริ่มเดิมๆ และเริ่มจะหายไปในช่วงหลังปี 2520 เนื่องจากช่างเริ่มใช้เทคนิคการ กัดกรด และ การปั้นย่อกันมากขึ้น จึงทำให้ไม่ค่อยมีงานแกะสด ยิ่งโดยเฉพาะในปัจจุบันมีน้อยมากแทบจะหมดไป งานแกะสดมีทั้งพิมพ์ตื้นและพิมพ์ลึก ยุคแรกๆจะเป็นงานแกะตื้น แต่หลังปี 2500 จะเริ่มเป็นงานแกะพิมพ์ลึก เนื่องจากช่างต้องการเน้นไปในดวงตาและความโดดเด่นตรงใบหน้าเป็นหลัก การแกะสดยุคหลังส่วนใหญ่จะเป็นการแม่พิมพ์ตัวผู้ เพื่อนำไปถอดพิมพ์ แบบนี้ก็เรียกว่าแกะสดได้เช่นกัน เพราะศิลป์ทั้งหมดออกมาจากฝีมือของช่าง แต่เพียงนำตัวแม่แบบไปถอดพิมพ์เพิ่ม มาในยุคหลังๆเครื่องไม้เครื่องมือทันสมัยขึ้นก็ทำให้บางโรงงานจึงนิยมระบบที่ทันสมัยมากกว่า นอกจากจะทำได้ออกมาดีแล้วยังประหยัดเวลาได้อีกมาก สาเหตุที่ทำให้ช่างไม่นิยมงานแกะสด เนื่องจากต้องใช้เวลานานมาก และ เสียเวลา รวมถึงงานแกะสดนั้นได้ความสมจริงของใบหน้าไม่เท่ากับงานปั้นย่อ(งานปั้นย่อจะใช้เทคเนคการปั้นเพื่อนำไปถอดพิมพ์) และ งาน 3D แต่อย่างไรก็ตามงานสดก็มีข้อดีที่งานปั้นหรืองาน3D ไม่อาจเทียบได้ คือ ความพริวไหวของเส้น ซึ่งเกิดจากลายมือของช่างนั้นๆโดยเฉพาะ โดยในเวลาท่านส่องเหรียญจะเห็นว่า มีรอยขุดเป็นก้อนๆ รอยขัดเป็นเส้นๆ ตามบริเวณใบหน้าองค์พระหรือหลวงพ่อนั้นๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ยากที่งานไหนๆจะเลียนแบบ ถือเป็นเสน่ห์ของเหรียญที่ขาดไม่ได้