
กุรมาวตาร (เต่า) ปางที่สอง พระนารายณ์อวตาร

เรื่องมีอยู่ว่า ฤษีทุรวาส นำมาลัยสวรรค์จาก
นางเทวดา ถวายต่อพระอินทร์ที่เดินทางผ่านมา พระอินทร์รับเอาแล้ววางมาลัยไว้บนหัวช้างเอราวัณ ทำให้ช้างมีอาการคลุ้มคลั่ง คว้าเอามาลัยมากระทืบจนแหลก ฤษีทุรวาสโกรธว่าพระอินทร์ไม่ให้เกียรติตน จึงสาปพระอินทร์และหมู่เทวดา ให้หมดฤทธิ์ สู้รบพ่ายแพ้ทุกครั้ง ทำให้พระอินทร์ได้เข้าพบพระนารายณ์เพื่อขอแก้คำสาป พระนารายณ์จึงให้ทำพิธีกวนเกษียรสมุทร เพื่อให้ได้น้ำอมฤต เพิ่มพลังแก่เทวดาและไม่มีวันตาย แต่ต้องให้เทวดาไปหลอกอสูรมาช่วยพิธีดังกล่าว

พิธีกวนเกษียรสมุทร มี พระพรหม พระศิวะ พระนารายณ์ เป็นประธานในพิธี นำเขามันทราคีรี มาปักเป็นไม้กวน พญานาควาสุกรี เป็นเชือก ให้เทวดาฉุดด้านหางและอสูรฉุดด้านหัว การกวนใช้เวลานาน พญานาคเหนื่อยล้าได้คายพิษออกมาไปถูกอสูรตายไปเป็นจำนวนมาก เวลานั้น เขามัทราคีรีได้กดลงจะทะลุแกนโลก พระนารายณ์จึงอวตารร่างเป็นเต่ายักษ์ "กูรมาวตาร" ใช้กระดองรองรับแรงเสียดสีของเขามัทราคีรีไม่ให้พื้นทะลุและทำให้โลกแตก

เมื่อกวนเกษียรสมุทรเสร็จสิ้นเกิดของวิเศษ 10 อย่าง (บางตำรา มี 14 อย่าง) ผุดขึ้นมา และสุดท้ายมีหม้อน้ำอมฤตออกมา พวกอสูรกรู่เข้าไปจะแย่งชิง พระนารายณ์จึงแปลงกายเป็นนางโรหิณี ร่ายรำ ล่อลวงอสูรให้หลง งงงวย ในความงามของนาง พระอินทร์ได้โอกาสก็นำน้ำอมฤตกลับมาแบ่งกันในหมู่เทวดาดื่มกิน
ขอขอบคุณท่านอาจารย์
AR Nan. ที่มาเล่าข้อมูลดีๆแบบนี้

