หลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่ กทม.
อาจารย์อีกรูปหนึ่ง ที่เสด็จเตี่ยฝากตัวเป็นศิษย์ ท่านเคยจารตระกรุดใต้นํ้าถวายเสด็จเตี๋ย..ตามประวัติ
ครั้งหนึ่งทหารติดตามเสด็จเตี่ยได้พากันมาเที่ยวแถวถนนตก เกิดทะเลาะกับนักเลงเจ้าถิ่น ได้มีการต่อสู้กัน ถึงกับใข้อาวุธเข้าปะทะกัน ซึ่งนักเลงเจ้าถิ่นพลาดท่าให้กับทหารหลายครั้ง แต่คมดาบไม่สามารถทำอะไรผิวหนังของนักเลงเจ้าถิ่นได้ จนความทราบถึงเสด็จเตี่ยท่านจึงเสด็จมาที่เกิดเหตุ พอดีกับทหารคนหนึ่งเสียท่าล้มลง นักเลงเจ้าถิ่นเงื้อมดาบสุดแขนฟันลงที่ร่างทหาร เสด็จเตี่ยได้กระโดดค่อมร่างของทหารไว้ดาบนั้นจึงฟันลงที่แผ่นหลังของเสด็จเตี่ยอย่างเต็มที่ แต่ไม่สามารถทำอะไรผิวหนังท่านได้ นักเลงเจ้าถิ่นเห็นอย่างนั้นจึงหันมาเล่นงานเสด็จเตี่ยด้วยไม่รู้ว่าใครเป็นใครจึงต่อสู้กันอย่างไม่มีใครยอมใครผลัดกันลุกผลัดกันรับและแล้ว
นักเลงเจ้าถิ่นก็พลาดท่า โดนดาบลงอาคมของเสด็จเตี่ย ฟันเข้าที่ลำตัวอย่างเต็มที่ แต่ดาบลงอาคมไม่
สามารถ ทำอะไรผิวหนังของนักเลงเจ้าถิ่นได้ เมื่อเป็นเช่นนี้เสด็จเตี่ยจึงทราบทันทีว่า ต้องเป็นศิษย์มีครูแน่ดาบลงอาคมถึงทำอะไรนักเลงเจ้าถิ่นไม่ได้เสด็จเตี่ยจึงท้าให้ทิ้งดาบแล้วมาสู้กันด้วยมือเปล่า นักเลงเจ้าถิ่นจึงรับคำท้าทั้งสองจึงใช้ แม่ไม้มวยไทยต่อสู้กันและแล้วนักเลงเจ้าถิ่น ก็สู้เสด็จเตี่ยไม่ได้ด้วยเชิงมวยผิดกัน จึงโดนทหารติดตามรุมจับมัดด้วยผ้าขาวม้าเสด็จเตี่ยจึงตรัสถามว่า...มึงลูกศิษย์ใคร..
กูลูกศิษย์พ่อพุ่ม วัดบางโคล่ วันต่อมาเสด็จเตี่ยและทหารอีกสองคนแต่งชุดชาวบ้าน พายเรือไปหาหลวงปู่ พอถึงวัดหลวงปู่พุ่มท่านได้นั่งรออยู่ที่นอกชานกุฎิ แล้วร้องทักขึ้นมาก่อนว่า...มาถึงแล้วหรือมหาบพิตร อาตมานั่งรอต้องนาน เสด็จเตี่ยจึงรู้ทันทีว่า อาจารย์องค์นี้ไม่ธรรมดา ถึงรู้ว่าท่านจะมาและรู้ว่าท่านเป็นใคร จึงขึ้นไปกราบและสนทนากันในกุฎิ ครู่ใหญ่หลวงปู่พุ่มเดินออกมาพร้อมแผ่นโลหะและเหล็กจาร เดินลงไปในแม่นํ้หน้าวัดแล้วดำหายไปครู่ใหญ่โผล่ขึ้นมาจากนํ้าพร้อมโลหะม้วนเป็นแท่ง...แต่ที่น่าแปลกจีวรท่านไม่เปียก
นี่คือบันทึกจากทหารติดตามที่พายเรือไปกับเสด็จเตี่ย