อุ หรือ อุฏฐานสัมปทา แปลว่า การถึงพร้อมด้วยความขยันหมั่นเพียร หรือ “ขยันหา
“อา” หรือ อารักขสัมปทา” แปลว่า การรู้จักรักษาทรัพย์สินที่มีอยู่ให้ดี หรือ “ขยันเก็บ”
“กะ” หรือ “กัลยาณมิตตา” แปลว่า การมีเพื่อน หรือมิตรที่ดี หรือ “เลือกคบ”
“สะ” หรือ “สมชีวิตา” แปลว่า การเป็นผู้ที่ดำรงชีพได้อย่างสมดุล และเหมาะสม หรือ “เลือกใช้”
คาถา “หัวใจมหาเศรษฐี” เป็นหนึ่งในหลักธรรมคำสอนทางพุทธศาสนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอันที่จะได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทองรวมถึงการมีเกียรติยศชื่อเสียง โดยเป็นหลักธรรมที่มีชื่อเรียกเต็มๆ เป็นภาษาบาลีว่า “ทิฏฐธัมมิกัตถสังวัตตนิกธรรม 4” หรือที่เรียกกันย่อๆ ว่า “ทิฏฐธัมมิกัตถะ” แปลว่า ธรรมที่พึงนำไปประพฤติปฎิบัติเพื่อประโยชน์สูงสุดในปัจจุบัน ซึ่งประกอบด้วยหลักธรรมอันเป็นคำย่อสั้นๆ 4 คำที่จำกันได้ง่ายๆ คือ คำว่า “อุ อา กะ สะ” ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้
“อุ” มาจากคำภาษาบาลีว่า “อุฏฐานสัมปทา” อ่านว่า “อุด-ถา-นะ-สำ-ปะ-ทา” แปลว่า การถึงพร้อมด้วยความขยันหมั่นเพียร หรือ “ขยันหา” โดยต้องรู้จักขยันหมั่นเพียร และมีความรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่การงาน ไม่เกียจคร้าน หนักเอาเบาสู้ รู้จักทำมาหากิน หรือประกอบอาชีพอย่างซื่อสัตย์ และสุจริต หมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับอาชีพหรือหน้าที่การงานของตนเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มีความเชี่ยวชาญในการทำงานมากยิ่งขึ้น ตลอดจนทำงานด้วยความมีสติ สมาธิ และปัญญาเพื่อให้ทุกอย่างประสบความสำเร็จตามที่ต้องการ เช่น การได้เลื่อนตำแหน่งงานที่สูงขึ้น การได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น การขายสินค้า หรือบริการได้มากขึ้น เป็นต้น
“อา” มาจากคำภาษาบาลีว่า “อารักขสัมปทา” อ่านว่า “อา-รัก-ขะ-สำ-ปะ-ทา” แปลว่า การรู้จักรักษาทรัพย์สินที่มีอยู่ให้ดี หรือ “ขยันเก็บ” โดยต้องรู้จักรักษาทรัพย์สินที่หามาได้ให้คงอยู่ และเก็บรักษาไว้ให้ปลอดภัย ไม่ให้เสียหาย ถูกทำลาย หรือสูญหาย รู้จักถนอมเก็บไว้ไม่ให้สิ้นเปลือง รู้จักซ่อมแซมให้ทรัพย์สินมีสภาพดี และรู้จักเสียดาย ไม่ทิ้งให้เสื่อมประโยชน์ไว้เฉยๆ ตลอดจนรู้จักการเก็บหอมรอมริบ และการออมเงิน มีความประหยัด และรู้มัธยัสถ์ นอกจากนี้ ยังรวมถึงการหลีกเลี่ยงจากอบายมุขทั้งหลายที่ทำให้สูญเสียทรัพย์สินเงินทองอีกด้วย
“กะ” มาจากคำภาษาบาลีว่า “กัลยาณมิตตา” อ่านว่า “กัน-ละ-ยา-นะ-มิต-ตะ-ตา” แปลว่า การมีเพื่อน หรือมิตรที่ดี หรือ “เลือกคบ” โดยเลือกคบแต่คนดี มีคุณธรรม สามารถแนะนำ หรือชักจูงกันไปในทางที่ถูกที่ควรร่วมกันได้ เป็นเพื่อนแท้ที่สามารถช่วยเหลือกัน และกันได้ในยามเดือดร้อน หรือคับขัน ไม่สร้างความเดือดร้อน เอารัดเอาเปรียบ หรือเบียดเบียนกัน มีแต่ความหวังดี และคบกันอย่างจริงใจโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ ที่สำคัญก็คือ ต้องไม่คบคนชั่ว หรือคนพาลที่จะชักนำไปในทางที่ไม่ดี อันจะนำไปสู่การทำสิ่งที่ผิดศีลธรรม หรือทำผิดกฎหมายในที่สุด
“สะ” มาจากคำภาษาบาลีว่า “สมชีวิตา” อ่านว่า “สะ-มะ-ชี-วิ-ตา” แปลว่า การเป็นผู้ที่ดำรงชีพได้อย่างสมดุล และเหมาะสม หรือ “เลือกใช้” โดยรู้จักประมาณการใช้ชีวิตให้เป็นไปตามอัตภาพ เลือกกินเลือกใช้อย่างพอเพียง ไม่ฝืดเคือง มีน้อยใช้น้อย มีมากใช้มากได้ตามสมควรแก่ฐานะทางการเงิน หรือรายได้ของตนเอง ไม่ใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย ฟุ่มเฟือย หรือเกินตัวจนทำให้ต้องเป็นหนี้ นอกจากนี้ ยังรวมถึงการดำรงชีวิตบนทางสายกลาง ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป หรือรู้จักกับความพอเหมาะพอดีด้วยนั่นเอง
ถึงตรงนี้ก็น่าที่จะสรุปได้แล้วว่า คาถา “หัวใจมหาเศรษฐี” นี้คงไม่ได้เป็นเพียงแค่หลักธรรมเพื่อไว้ใช้สำหรับสวดท่องทุกเช้าวันละ 5 จบ เท่านั้นจึงจะเกิดผล แต่เป็นแนวทางที่ต้องน้อมนำไปปฏิบัติ และปรับใช้ในการดำรงชีวิตอย่างจริงจังต่างหาก แน่นอนว่า หากผู้อ่านสามารถนำหลักธรรมดังกล่าวนี้ไปประพฤติปฎิบัติตามแล้วละก็ ย่อมที่จะประสบกับความสำเร็จรุ่งเรือง อุดมไปด้วยทรัพย์สินเงินทอง และเกียรติยศชื่อเสียงตามมาอย่างเป็นแน่แท้