พระครูอรุณธรรมมาภินันท์
พระอาจารย์ชุมพร สนฺตสีโร
เจ้าอาวาส วัดป่าอรุณธรรม (ธ)
ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ ๘ บ้านสังคมพัฒนา
ตำบลหลักเหลี่ยม อำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์
นามเดิม นายชุมพร ภูแซมศรี เกิดเมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๑๕ ขึ้น ๑ ค่ำ ปี ฉลู ที่บ้านสังคมพัฒนา ตำบลหลักเหลี่ยม อำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์ มีบิดาชื่อ นายลำไพ มารดา นางเกษร ภูแซมศรี
เมื่ออายุ ๒๗ ปี ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในบวรพระศาสนา ในสายพระกรรมฐาณ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
เมื่อวันที่ ๒๓ เดือน มิถุนายน พ.ศ.๒๕๔๓ เวลา ๑๔ :๔๐
ที่ พัทธสีมา วัดป่าธรรมนิมิตโพธิ์เก้า ตำบลนาขาม
อำเภอกุฉินารายณ์ (บัวขาว) จังหวัดกาฬสินธุ์
โดยมี
พระครูจิตฺตสังวรคุณ เป็น พระอุปัชฌาย์
พระครูสุรีวรธรรม เป็น พระกรรมวาจาจารย์
พระณรงค์ศักดิ์ ฐิตวีโร เป็น พระอนุสาวนาจารย์
พระอุปัชฌาย์พระอาจารย์ชุมพร พระครูจิตตสังวรคุณ หรือ หลวงพ่อสนิท จิตฺตวโร เป็นศิษย์ และ ลัทธิวิหาริก ของ พระราชธรรมมานุวัตร (หลวงปู่อ่อน จกฺกธมฺโม)วัดประชานิยม (ธ) ตำบลกาฬสินธุ์ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ และ เป็นศิษย์รุ่นใหญ่ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เช่นกัน
และ บัจจุบัน พระครูจิตตสังวรคุณ ได้ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม บ้านยอดแกง ตำบลยอดแกง อำเภอนามน จังหวัดกาฬสินธุ์
และได้ดำรงต่ำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์เป็น
เจ้าคณะอำเภอนามน-กุฉินารายณ์ (ธรรมยุต)
สิริอายุได้ ๖๖ ปี พรรษา ๔๖ (พ.ศ.๒๕๖๖)
นับแต่อุปสมบท ท่านได้ปฏิบัติตนตามแนวทางคำสอนพระศาสดาอย่างเคร่งครัดและยึดถือธุดงควัตร ด้วยจริยวัตรปฏิปทางดงาม จนได้รับการยกย่องจากผู้ศรัทธาทั้งหลาย หลังจากที่ได้อุปสมบท แล้วได้จำพรรษา ตามสถานที่ต่างๆ ดังนี้
ลำดับการจำพรรษา
พรรษาที่ 1 ก็ได้มาจำพรรษาท ที่พักสงฆ์อ่างมโนราห์
พรรษาที่ 2 ก็ได้ธุดงค์ไปที่ในป่าช้า วัดมุจลินท์
พรรษาที่ 3 ก็ได้ที่ลงไปที่วัดคูหาผานิพพาน (ภูแฝด)
พรรษาที่ 4 ก็ได้ธุดงค์ไปที่วัดป่าบ้านผึ้ง (ไค้นุ่น )
พรรษาที่ 5 ที่ถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
พรรษาที่ 6 วัดป่าเขาน้อย อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร
พรรษาที่ 7 ที่พักสงฆ์เขาเขียว บัจจุบันเป็น วัดป่าเขาเขียว อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก
พรรษาที่ 8-24 ท่านก็ได้ธุดงค์มาถึงป่าหนองบัว
( ปัจจุบัน) ก็ได้จำพรรษา ที่ป่าหนองบัวแห่งนี้เลย แล้วก็ได้ก่อตั้งวัดจนถึงทุกวันนี้ เพราะว่า มีโยมผู้ใจบุญ เกิดศรัทธาได้ถวายที่แห่งนี้ให้ท่านได้จำพรรษาเพื่อปฏิบัติธรรมตามหลักคําสอนของพุทธศาสนาจนถึงทุกวันนี้.... ในด้านการศึกษาวิชาหรือการปฏิบัติแบบพระสายป่า
ท่านได้เรียนศึกษากับพระอาจารย์หลายๆองค์ อาทิ เช่น หลวงปู่จันทา ถาวโร วัดป่าเขาน้อย ต.วังทรายพูน อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร เหตุเพราะ หลวงปู่จันทา ท่านเป็นศิษย์เอก หลวงปู่ขาว อนาลโย แห่ง วัดถ้ำกลองเพล แน่นอนว่าการที่จะศึกษาวิชาหรือฝึกจิตเร่งความเพียร เดิน ยื่น นั่ง 3 อริยาบท นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่พระอาจารย์ชุมพร ก็ทำจนสำเร็จ และเป็นที่ยอมรับของ
พระอริยเจ้าหลวงปู่จันทา ถาวโร
ในฐานะศิษย์เอก พระเกจิอาจารย์อีกองค์ของท่าน คือ หลวงปู่สมหวัง หรือเรียกตามภาษาชาวบ้านว่า หลวงตาหวัง สนฺตมโน วัดป่าคำก้าวมงคล (วัดป่าก้าวมงคล) บ้านโนนเที่ยง ต.นามน อ.นามน จ.กาฬสินธุ์
#หลวงตาหวังนั้นท่านเป็นศิษย์รูปเดียว ที่หลวงปู่แหวน สุจิณโน แห่ง วัดดอยแม่ปั๋ง ให้ท่านดูแลและมอบหมายการอบรมในด้านจิต สติ วิชาเป็นอย่างดี การที่จะเรียนกับหลวงตาหวังก็เช่นกัน จะต้องมีใจที่อดทนและฝ่าฟันอย่างสูงถึงจะสำเร็จในการเรียนจิตทางสายนี้ หลวงปู่แหวน นั้นท่านมีอภินิหารมากมาย ซึ่งหลวงตาหวังก็เช่นกัน จนเป็นที่ล่ำลือถึงความอภินิหารในเรื่องต่างๆ พระอาจารย์ชุมพร ได้ฝึกล่ำเรียนวิชาหรือฝึกจิตขั้นสูง จากหลวงตาหวังจนสำเร็จ และเป็นพระที่หลวงตาหวังให้ความรักความเอ็นดูอีกด้วย
#พระอาจารย์อีกหนึ่งท่านที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้เลย คือ หลวงปู่อ่ำ วัดป่าเขาเขียว ในช่วงที่ได้ได้ธุดงไปในที่ต่างๆหรือแม้จำพรรณษาอยู่ที่วัดนั้น ท่านจะเข้าไปเรียนกรรมฐานการฝึกจิตและเรียนวิชาจาก หลวงปู่อ่ำ 'หลวงปู่อ่ำ ธมฺมกาโม' หรือ
#พระครูสันติวรญาณ วัดที่พักสงฆ์ป่าเขาเขียว บัจจุบัน เป็น วัดป่าเขาเขียว อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก มิได้ขาดสาย หลวงปู่อ่ำ ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต รวมถึงได้รับการฝึกมาจากหลายๆอาจารย์ เช่น หลวงปู่พรหม จิรปุญโญ ที่วัดประสิทธิธรรม ,หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จ. สกลนคร, หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม อ.หนองวัวซอ จ. อุดรธานี เป็นต้น
#สาเหตุที่ทำให้พระอาจารย์ชุมพร ท่านได้มาเรียนกับหลวงปู่อ่ำ นั้นก็คือ หลวงปู่จันทา ท่านเป็นสหธรรมมิกกับ หลวงปู่อ่ำ นั้นเองท่านทั้งสองมักจะไปมาหาสู่กันเสมอรวมถึงการแลกเปลี่ยนวิชา เจริญสิต กรรมฐาน กันเสมอมา หลวงปู่ทั้งสองกล่าวชมพระอาจารย์ชุมพรอย่างมากและถ่ายทอดสรรพวิชาและการฝึกจิตอย่างเต็มความสามารถ ถึงขนาดพระอาจารย์ทั้งสองพูดกับลูกศิษย์ว่า ต่อไปภายภาคหน้า "ท่านชุมพร" จะเป็นกำลังสำคัญแก่พระพุทธศาสนา เป็นที่พึ่งแก่ชาวบ้าน ในอนาคต แม้ว่าพระอาจารย์ชุมพร ท่านจะเรียนสรรพวิชามามากเพียงใด แต่ท่านก็มิเคยโอ้อวดวิชาใดๆ
ท่านมักจะเป็นพระที่ฝึกสมาชิกอยู่ตลอดเวลา สังเกตได้ว่าไม่ว่าจะอยู่สถานที่ใดๆท่านมักจะกำหนดจิตให้นิ่งอยู่ได้เสมอ แม้ว่าสถานที่นั้นจะมีเสียงดังวุ่นวายก็ตาม ถ้าจะย้อนกลับไปที่วัดป่าอรุณธรรมนั้น เกิดขึ้นมาได้ก็เพราะท่าน สาเหตุที่ท่านจะต้องมาสร้างวัด ณ ที่แห่งนี้ คือ มีชาวบ้านคนหนึ่งมอบที่ดินเพื่อให้ท่านสร้างวัด ในตอนแรกท่านปฏิเสธ เหตุเพราะท่านชอบธุดงมากกว่า แต่ผู้ถวายที่ดินก็จะยืนยันอยากจะสร้างที่ดินผืนนี้ให้เป็นวัด ในเวลานั้นการสร้างวัดมิใช่เรื่องง่าย แค่สำนักสงฆ์ก็ยากมากแล้ว
#ท่านเลยตั้งจิตจนนิมิตเห็นหลวงปู่มั่นในนิมิตหลวงปู่มั่นให้จุดย้อมผ้า (สมัยนั้นพระสายป่าจะต้องย้อมผ้าเอง ผ้าที่ใช้จะเป็นผ้าดิบผ้าห่อศพ เป็นต้นฯ) ท่านจึงได้ปฏิบัติตามในนิมิตที่เห็น ในเวลานั้นเป็นฤดูฝน จะจุดไฟก็ยากมากนักเพราะไม้ขีดไฟชื้นมากจะแทบไม่ติด จุดจนเหลือไม้ขีดก้านสุดท้าย ท่านจึงภาวนาอีกหนึ่งครั้ง จนสุดท้ายไม้ขีดไฟนั้นติด จึงได้ย้อมผ้าเป็นผลสำเร็จ จึงเป็นที่มาของการสร้างวัดป่าอรุณธรรมมาถึงปัจุบัน ในแรกๆนั้นท่านอยู่เพียงแค่เพิงไม้เล็กๆจนในที่สุดด้วยความอุตสหะท่านก็พัฒนาเรื่อยมาจนเป็นวัดสำเร็จ และ
#ได้รับสมณศักดิ์ ตามลำดับต่อมาที่
#พระครูอรุณธรรมาภินันท์ เป็นที่พึ่งพิงแก่ชาวบ้านและลูกศิษย์ลูกหาจนถึงปัจุบัน