สเตนเลส AISI304 คืออะไร

สเตนเลส AISI304 คืออะไร

สเตนเลส หรือ  Stainless steel นั้นเรารู้จักกันเป็นอย่างดีว่าคือโลหะแบบที่ไม่มีสนิมซึ่งจะแตกต่างจากโลหะที่เราคยใช้งานกันเมื่อนานมาแล้ว นอกจากนี้น้ำหนักของสเตนเลสยังน้อยกว่าโลหะแบบเดิมอีกด้วย นั่นก็เพราะสเตนเลสเป็นโลหะชนิดอื่นๆที่นำมาผสมกับเหล็กนั่นเอง โดยอย่างน้อยที่สุดสเตนเลสจะมีโครเมียมอยู่ 10.5% จากส่วนผสมทั้งหมดนั่นเอง

ส่วนข้อดีหลักๆที่มีการใช้สเตนเลสในปัจจุบันเป็นอย่างมากนั่นก็เพราะสเตนเลสไม่เกิดสนิมนั่นเอง ซึ่งจริงๆแล้วกรณีเดียวที่สเตนเลสจะเกิดสนิมได้นั่นคือ เมื่อสเตนเลสมีการหลุดลอกของผิวด้านนอกของตัวสเตนเลสนั่นเอง เพราะด้วยส่วนผสมของสเตนเลสที่มีโครเมียม ซึ่งโครเมียมนี้จะทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ ทำเกิดการสร้างฟิล์มบางๆที่บริเวณผิวของสเตนเลสที่มีไว้ ซึ่งฟิล์มบางๆนั้นก็คือฟิล์มโครเมียมออกไซด์ ซึ่งฟิล์มโครเมียมออกไซด์นี้เองที่จะเป็นฟิล์มกันไม่ให้น้ำและออกซิเจนมาทำปฏิกิริยากับเหล็กจนเกิดเป็นสนิมขึ้นมานั่นเอง และฟิล์มนี้ยังทำหน้าที่ในการป้องกันการกัดกร่อนหรือการสึกกร่อนได้ซึ่งแตกต่างจากโลหะแบบเดิม ดังนั้นถ้าสเตนเลสถูกทำให้เกิดรอยขีดข่วนขึ้นมาบนพื้นผิวแล้ว ฟิล์มโครเมียมออกไซด์ก็จะหายไปแล้วบริเวณรอยนั้นมีความชื้นและออกซิเจนอยู่ ก็จะทำให้ความชื้นและออกซิเจนสามารถเกิดปฏิกิริยากับเหล็กได้ ก็จะเป็นสาเหตุให้เกิดสนิมขึ้นได้นั่นเอง

ซึ่งปกติแล้วสเตนเลสจะมีเกรดที่แตกต่างกันออกไป และสเตนเลสแต่ละเกรดก็จะมีส่วนผสมภายในที่แตกต่างกัน และโลหะที่มีการนำมาผสมลงในเนื้อเหล็กคือโครเมียมและนิกเกิล ซึ่งสแตนเลสประเภทนี้มักจะมานำมาใช้ในงานโลหะทั่วๆไป และมักจะถูกใช้ทำเครื่องใช้ทั่วไปที่ต้องใช้โลหะเป็นองค์ประกอบ ซึ่งเราสามารถแบ่งประเภทของสเตนเลสได้จากเลขรหัสของโลหะที่แบ่งตามมาตรฐาน AISI (American Iron and Steel Institute) ซึ่งจะใช้การกำหนดเกรดของสเตนเลส ตามส่วนผสมที่แตกต่างกันออกไปตามลักษณะการนำไปใช้งานของสเตนเลสนั้นๆ จะเป็นตัวกำหนดเกรดของสเตนเลส  ประเภทของสเตนเลสถูกออกเป็น 5 กลุ่มได้แก่ ออสเทนนิติค, เฟอริติค, ดูเพล็กซ์, มาร์เทนซิติค และ กลุ่มเพิ่มความแข็งโดยวิธีการตกผลึก

·        กลุ่มออสเทนนิติค หรือ Austenitic ส่วนใหญ่เป็นสเตนเลสในตระกูล 300 และมีการใช้งานมากที่สุดถึง 70% มีส่วนผสมของโครเมียม 16% คาร์บอนอย่างมากที่สุด 0.15%  และธาตุนิกเกิล 8%

·        กลุ่มเฟอริติค หรือ Ferritic สเตนเลสประเภทนี้มีธาตุคาร์บอนอยู่ในปริมาณที่ต่ำ และใช้โครเมียมเป็นส่วนใหญ่ที่ระหว่าง 10.5%-27% และอาจจะไม่มีนิกเกิลอยู่เลยหรือมีแต่น้อยมาก

·        กลุ่มดูเพล็กซ์ หรือ Duplex สเตนเลสประเภทนี้คล้ายกับกลุ่มเฟอริติคและกลุ่มออสเทนนิติคผสมกัน และมีโครเมียมอยู่ 19-28% และโมลิบดินัมสูงกว่า 5%  และมีนิกเกิลน้อยกว่า 8%  

·        กลุ่มมาร์เทนซิติค หรือ Martensitic สเตนเลสประเภทนี้มีส่วนผสมของโครเมียมอยู่ 12-14%  ธาตุคาร์บอนเล็กน้อย โมลิบดีนัมอยู่ประมาณ 0.2-1% และไม่มีนิกเกิลอยู่เลย สเตนเลสประเภทนี้สามารถเปลี่ยนรูปได้ จึงพบได้ในอุตสาหกรรม เช่น การผลิตเครื่องตัด, อุตสาหกรรมเครื่องบินและงานวิศวกรรมทั่วไป เป็นต้น

·        กลุ่มเพิ่มความแข็งโดยการตกผลึก หรือ Precipitation hardening สเตนเลสประเภทนี้มักจะเป็นกลุ่ม 17-4H  มีโครเมียม 17% และนิกเกิล 4%

และสเตนเลส AISI 304 เป็นสเตนเลสในกลุ่มออสเตนิติก และมีการใช้งานอย่างแพร่หลายที่สุดในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมอาหาร, อุปกรณ์เครื่องครัว, เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร, เครื่องใช้ในบ้าน, เครื่องล้างจาน, อ่างล้างจาน, ภาชนะหุงต้ม เป็นต้น เพราะสเตนเลส AISI 304 มีความทนทานต่อสารเคมีจากสารอินทรีย์และอนินทรีย์ เช่นกรดต่างๆในอาหารได้เป้นอย่างดี และสเตนเลส AISI 304 มีส่วนผสมของโครเมียมอยู่ 18%  คาร์บอนไม่เกิน 0.08%  และธาตุนิกเกิลอย่างน้อย 8%  

และด้วยความต้องการให้ลูกค้าของคิทเช่นฟอร์มได้สิ่งที่ดีที่สุดและมีความปลอดภัยในการใช้งาน คิทเช่นฟอร์มจึงได้เลือกสรรและเลือกจำหน่ายเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ทำครัวที่มีคุณภาพเท่านั้น มีหลากหลายแบรนด์ให้ท่านได้เลือกสรร และยังคำนึงถึงความปลอดภัยและสวยงามในคราวเดียวกัน ดังนั้นถ้าคิดจะซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำอาหารใดเพื่อใช้ในงานครัวของคุณ คิทเช่นฟอร์มอาจจะเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีที่ไม่ควรมองข้าม ด้วยชื่อเสียงและการยอมรับของคิทเช่นฟอร์มในวงกว้างถึงคุณภาพที่ดีของเครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำอาหาร นอกจากนี้บริษัทคิทเช่นฟอร์ม อินเตอร์เทรด จำกัดยังให้ความสำคัญเรื่องการบริการทั้งระหว่างการขายและหลังการขาย และกำหนดราคาขายที่เหมาะสมมากที่สุดแห่งหนึ่ง ด้วยบริการส่งสินค้าทุกชิ้นฟรีทั่วประเทศไทย  รับประกันว่าคุณสั่งสินค้าวันนี้ทางคิทเช่นฟอร์มจะส่งสินค้าพรุ่งนี้ทันที ไม่จำเป็นต้องวางเงินประกันด้วยระบบเก็บเงินปลายทางนั่นเอง