จากตำรามหายันต์แห่งลุ่มน้ำโขง ที่สืบทอดมากว่า 100 ปี ถอดพระคาถา ยันต์สมปรารถนา
ยันต์ยอดสมปรารถนา
พระธาตุพนมบรมเจดีย์เป็นปูชนียสถานที่เก่าแก่ สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ. 8
ตั้งอยู่ฝั่งขวาของแม่น้ำโขง เป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เรียกว่า ภูกำพร้า
ก็คือตามประเพณีที่ผ่านมาพระพุทธเจ้าทั้งสามพระองค์คือ
กุกสันธะ โกนาคมนะ กัสสปะ ที่ได้นิพพานไปแล้วใน
ภัทรกัลป์นี้จะนำพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้ที่นี้ ฉะนั้นเมื่อพระพุทธเจ้าสมณโคดม
(องค์ปัจจุบัน)พระองค์เสด็จสู่ปรินิพพานแล้ว พระมหากัสสปะสาวกจึงได้อัญเชิญ
พระอุรังคธาตุของพระองค์มาบรรจุในพระธาตุพนมแห่งนี้ หลังจากที่
พระพุทธองค์เสด็จปรินิพพานแล้ว ซึ่งมีท่านพญาเจ้าเมืองทั้งห้าได้ร่วมกันสร้างพระธาตุพนมคือ
พญาอินทปัตถนคร พญาจุลณีพรหมทัต พญานันทเสน พญาคำแดง
และพญาสุวรรณภิงคาร หลังจากแบ่งหน้าที่กันสร้างอุโมงค์และพระอุโบสถเสร็จแล้วได้บริจาคแก้ว
แหวน เงิน ทอง มงกุฎเพชร กำไลเพชร เครื่องใช้สิ่งของมีค่าบรรจุไว้อย่างมากมายมหาศาล
ประมาณนับไม่ได้
หลังจากนั้นเจ้าเมืองต่างๆ ก็ให้ความอุปถัมภ์องค์พระธาตุพนมมาโดยตลอด
จนกระทั่งเกิดการบูรณะพระธาตุพนมครั้งใหญ่ 6 ครั้ง
และเมื่อพระธาตุพนมล้มลงมาก็ปรากฏสิ่งของมีค่าปรากฏแก่ฝูงชนและประชาชนทั่วไป
หนึ่งในนั้นก็คือ นวภา 25 ดวง ซึ่งโครงพระยันต์เหมือนกับพระยันต์มหาปรารถนา
ที่พบเห็นบางส่วนบรรจุลงในแผ่นศิลา มหายันต์เหล่านี้ไม่เคยปรากฏว่ามีหรือพบเห็นในประเทศไทยเหมือนพระยันต์ของเกจิอาจารย์อื่นๆ
ตำนานมหายันต์แห่งลุ่มแม่น้ำโขง
มหายันต์ลุ่มน้ำโขงเป็นดวงยันต์โบราณที่เกจิอาจารย์หรือครูอาจารย์หลายยุคหลายสมัยแถบลุ่มแม่น้ำโขงได้ศึกษาต่อกันมา ถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มากผู้มีบุญวาสนาเท่านั้นและมีบุญเก่าสะสมมาเท่านั้นจึงจะศึกษาได้ ไม่ใช่เป็นการท่องจำเหมือนนักเรียนท่องจำมหายันต์นี้มีมาแต่โบราณสันนิษฐานไม่ได้ว่ามาจากยุคใด ต่อมายันต์นี้ตกมาถึงพระราชครูโพนสะเม็ด(หลวงปู่ขี้หอม) ต่อจากนั้นก็ตกมายังสมเด็จลุน หลังจากสมเด็จลุนวิชาดังกล่าวก็ตกมายังญาครูพรหมาแห่งนครจำปาศักดิ์และก็มาถึงตาปะขาวครุฑและได้ตกทอดมาถึงหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ
มหาดวงทั้งยี่สิบห้าดวงได้มาจากญาครูพรหมาแห่งนครจำปาศักดิ์ที่มามรณภาพที่บ้านม่วงเขียนเป็นยันต์ดวงเป็นตัวธรรมลาว หลวงปู่คำพันธ์ ท่านปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานตามแนวชีปะขาวครุฑและหลวงปู่เสาร์จนสำเร็จในขั้นชั้นสูงจนสามารถกำหนดรู้ได้ด้วยฌานสมาบัติของท่าน สามารถเข้าใจและเรียนรู้นวภา 25 จนเข้าใจทะลุปรุโปร่งหมด และได้ทำการถอดนวภาจาก 25 ดวงให้เหลือ 15 ดวง และถอดจาก 15 ดวง ให้เหลือ 9 ดวง และถอดจาก 9 ดวง เหลือ 5 ดวง ถอดจาก 5 ดวง เหลือ 3 ดวง และถอดจาก 3 ดวง เหลือเพียงดวงเดียว นั้นก็คือพระยันต์มหาสมปรารถนา
นวภา 25 นวภาทั้งยี่สิบห้าดวงนี้เป็นยันต์โบราณ มีความศักดิ์สิทธิ์มาก โครงกระดูกยันต์คล้ายยันต์ดวง ซึ่งทั้งยี่สิบห้าดวงมีความศักดิ์สิทธิ์เฉพาะด้าน ตามตำนานเป็นพระคาถาของพระอรหันต์เจ้า ได้ใช้สงเคราะห์มนุษย์โลกในเรื่องต่างๆ เช่นกัน ภูตผีปิศาจ รักษาโรคภัย และกันอันตรายทุกด้าน ช่วยทุกสิ่งทุกอย่างได้ครอบจักรวาลก่อนจะปรินิพพาน เพื่อสงเคราะห์มนุษย์โลกต่อไป จึงได้เขียนดวงยันต์นี้โดยจารึกลงแผ่นศิลาแล้วสอนลูกศิษย์ในยุคต่อๆ มา เพื่อสร้างบารมีในการช่วยโลกมนุษย์ เสริมอินทรีย์แก่กล้าเพื่อความสำเร็จในวิมุตต่อไป ซึ่งตัวธรรมของพระคาถาเป็นตัวธรรมภาษาลาว
ซึ่งมหายันต์อันศักดิ์สิทธิ์นี้ ได้พบหลักฐานบรรจุอยู่ในองค์พระธาตุพนม รู้จักกันในนามมหายันต์ ลุ่มน้ำโขงหรือยันต์ดอกบัว บางคนเรียกว่ายันต์กระดองเต่าของหลวงปู่คำพันธ์ เพราะมองแล้วลายเหมือนกระดองเต่า หรือเรียกว่า มหายันต์ร้อยแปดลุ่มน้ำโขงนี้มีพุทธานุภาพครอบจักรวาล มีกฤษดานุภาพสูงเฉพาะตัว หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญได้ศึกษายันต์นี้จนชำนาญทุกๆ มหายันต์สามารถเข้าใจแจ่มแจ้งทะลุปรุโปร่ง ด้วยอภิญญาบารมีธรรมอันแก่กล้า ท่านได้ถอดมหายันต์ร้อยแปดออกมาอีกทีหนึ่งซึ่งจะพบกันและรู้จักกันก็คือ ยันต์มหาปรารถนา ยันต์มั่นเที่ยง ยันต์นิพพานหรือยันต์ดับทุกข์ ซึ่งมี พุทธานุภาพสูงสะท้านไตรภพครอบจักรวาล
มหายันต์ร้อยแปดดวงหรือมหายันต์ลุ่มน้ำโขงหรือมหายันต์สมปรารถนา เป็นดวงพระยันต์ที่โครงกระดูกยันต์เขียนเหมือนยันต์ดวง ถือว่าเป็นสรรพวิชาของครู-บาอาจารย์ลุ่มน้ำโขงได้ตกทอดมายังครู-บาอาจารย์หลายชั่วอายุคน ผู้ที่รับหรือประสาทวิชาเหล่านี้ อย่างน้อยต้องสำเร็จถึงขั้นอภิญญาและมีบารมีธรรมเหนือ กว่าพระธรรมดาทั่วไป เมื่อศึกษาแล้วจะบังเกิดตบะเดชะ สามารถรู้เรื่องต่างๆ ได้เหมือนธรรมชาติ แม้แต่การกำกับหรือลงอักขระในแผ่นทองหรือแผ่นโลหะต่างๆ จะมีกฤษดานุภาพสูงสามารถป้องกันอันตรายได้ร้อยแปดซึ่งบางคนเรียกว่า เหนือมัจจุราช เมื่อหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญได้คัมภีร์ยันนี้มาแล้วท่านพยายามถอดจากมหายันต์ร้อยดวงออกมาเป็นมหายันต์ที่ศักดิ์สิทธิ์และเหมาะสมกับสภาวะปัจจุบัน นั่นคือคนปัจจุบันต้องการความมีเมตตามหานิยม มีลาภมียศศักดิ์มีความปลอดภัยในชีวิต และมีความเจริญในหน้าที่การงานอาชีพ ท่านก็ได้ถอดจากมหายันต์ร้อยแปดดวงออกมาเป็นยันต์ครูของท่านนั้นก็คือ ยันต์มหาปรารถนาแต่การที่จะถอดยันต์ออกมาได้ต้องอาศัย บารมีธรรมความเพียรเป็นอย่างยิ่ง
และมหายันต์สมปรารถนานี้ได้ตกทอดมาสู่ลูกศิษย์คือ พระครูสุริยันต์ โฆสปัญโญ วัดป่าวังน้ำเย็น ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม
จึงได้ขออาราธนานำเพื่อสงเคราะห์ชาวโลกให้ได้รับความสุข