ล้ำกว่าความฉลาดคือ เมื่อใช้สมองอีก 90% ที่ยังถูกปิดไว้ จิตใจก็เล็งเห็นสิ่งดีๆชนิดทวีคูณ
…..
ตามจิตวิทยาของซิกมุนด์ ฟลอยด์นั้น มนุษย์เราใช้สมองแค่ 10% เท่านั้น ยังมีอีก 90% ที่ยังไม่ถูกดึงออกมาใช้
มันน่าเสียดายไหมครับ
อารมณ์ประมาณ มีเงิน 10,000 บาท แต่ใช้จริงๆได้แค่ 1,000 บาทเองอะ
และหนทางที่จะใช้สมองอย่างถึง 100% ได้เต็มที่นั่นก็คือ การคิดแบบต่างมุมมองประเด็นนี้น่าสนใจ
น่าสนใจ1 กลยุทธ์พุทธะเรื่องคนตาลอดคลำช้าง
1 คนจับงวงก็บอกว่าช้างมีแค่งวง
1 คนจับงาก็บอกว่าช้างมีแค่งา
1 คนจับหางก็บอกว่าช้างมีแค่หาง
1 คนจับหูก็บอกว่าช้างมีแค่หู
1 คนจับพุงก็บอกว่าช้างมีแค่พุง
1 คนจับขาก็บอกว่าแค่ขา
ทั้งๆที่ความจริงแล้วช้างมีครบทุกองค์ประกอบ
แต่คนที่ตาบอดจับได้แค่จุดใดจุดหนึ่งเท่านั้นเพราะเขามองไม่เห็นจุดอื่นๆ
เพราะเขามีมุมมองต่อสิ่งใดๆเพียงแค่นั้น ไม่กี่มุมมองหรืออาจจะแค่มุมมองเดียว
.....
น่าสนใจ 2 เวลาสิ่งใดเกิดขึ้นมนุษย์มักจะมีมุมมองต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงแค่มุมมองเดียว และส่วนน้อยจะมีสองมุมมอง แต่ผู้ที่ดึงพลังสมอง100%และประเมินสถานการณ์ได้อย่างถ่องแท้จะมี 6 มุมมองด้วยกัน
1.สิ่งที่เกิดขึ้น
2.อารมณ์ความรู้สึก
3.ผลเสียและข้อความระวัง
4.ผลดี
5.ความคิดสร้างสรรค์จากเหตุการณ์นั้น
6.ข้อสรุปว่าจะเอายังไงต่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยมองรอบด้าน
.....
ในคราวที่เล่าปี่มาอาศัยเล่าเปี่ยว อยู่ที่แคว้นเกงจิ๋วนั้น
บังเอิญว่า เล่าปี่ดันไปมีปัญหา ขัดแย้งกับ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเกงจิ๋วอย่างชัวมอเข้า
เหตุการณ์บานปลายจนถึงขั้น เล่าปี่ถูก ชัวมอ วางแผนรอบสังหาร
แต่เล่าปี่ก็หนี เอาตัวรอดมาได้
และหลงทางจนได้มาพบกับ จอมปราชญ์ของแผ่นดินอย่าง สุมาเต๊กโช
และนี่ก็คือ หนึ่งในเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่ดูเหมือนว่าจะแย่ที่สุดในชีวิตของเล่าปี่ ที่ต้องถูกลอบสังหาร จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
แต่ก็ไม่แน่เสมอไปว่า ถ้าลองใช้สมองอีก 90% ที่เหลือ
มันอาจจะเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่ดีที่สุดในชีวิตของเล่าปี่เช่นกัน
.....
“ดีแล้วๆ ฮ่าๆๆ”
จอมปราชญ์แห่งยุคนามสุมาเต๊กโชกล่าวกับเล่าปี่ หลังจากที่พบเล่าปี่ในสภาพที่เปียกปอนขี่ม้ามา เสื้อผ้ารุงรังเหมือนว่ารีบหนีอะไรมาบางอย่าง
ใช่แล้วครับ เล่าปี่หนีการลอบสังหารจาก ชัวมอ ผู้คุมกำลังรบแคว้นเกงจิ๋วในเวลานั้นเพราะว่าก่อนหน้านั้น เล่าปี่เข้าไปให้ความคิดเห็นในเชิงที่ขัดผลประโยชน์ต่อชัวมอ
มันจะดียังไงอะ คนที่เพิ่งรอดพ้นจากการถูกลอบสังหารมาเนี่ยนะเล่าปี่ประเมินสถารณ์แล้ว
1.สิ่งที่เกิดขึ้นจาการที่ตนเองถูกลอบสังหาร จนได้มาพบกับสุมาเต๊กโช
2.อารมณ์ความรู้สึกเล่าปี่ก็คงจะตกใจปนๆดีใจจากที่หนีตายมาได้
เพราะเหนือสิ่งอื่นใดตราปใดที่ชีวิตยังมีลมหายใจอยู่ทุกอย่างพลิกพลันได้เสมอและตาชั่งแห่งโชคชะตานั้นล้วนแต่อยู่ข้างผู้ที่ไม่ยอมแพ้ทั้งสิ้น
3.ผลเสียและข้อควรระวัง
เล่าปี่ยังต้องอยู่ในแคว้นเกงจิ๋วต่อไป แม้ว่าชัวมอจะลอบสังหารก็จริง แต่สุดท้ายแล้วกลยุทธ์จีนโบราณที่36
เอาตัวรอดคือยอดกลยุทธ์
เล่าปี่จึงต้องยอมให้อภัยต่อสิ่งที่ชัวมอทำไปก่อนรวมถึงผูกมิตรกับชัวมอด้วยเพื่อที่ว่าตนและบริวารจะได้อาศัยในแคว้นเกงจิ๋วอย่างสงบบสุขต่อไป
4.ผลดีจากเหตุการณ์นี้
สิ่งใดเกิดขึ้นสิ่งนั้นดีเสมอ
เล่าปี่ก็คงจะดีใจที่ได้ทราบความจริงจากสุมาเต๊กโชที่ช่วยชี้แนะว่า เล่าปี่เก่งด้านบู๊ เล่าปี่มีทั้ง จูล่งหัวหมู่ทะลวงฟัน ไหนยังมีกวนอู เตียวหุยอีก
แต่ด้านบุ๋นยังขาดผู้วางกลยุทธ์ให้แบบพลิกเกมได้ เพราะซุนเขียน บิต๊กก็เป็นเพียงระดับผู้รู้หนังสือเท่านั้น แต่ยังขาดการพลิกแพลงวางกลยุทธ์ การจัดกำลัง การใช้คนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งเล่าปี่ยังขาดที่จุดนี้
ขณะที่โจโฉ ผู้มากอำนาจและบารมีในเวลานั้นมีบริวารครบทั้งด้านบู๊และบุ๋น นั่นจึงเป็นสาหตุที่ทำให้เพราะอะไรเล่าปี่ยังตั้งตัวไม่ได้ทั้งๆที่อายุก็เกือบที่จะ 50 ปีแล้วด้วยซ้ำไป
5.ความคิดสร้างสรรค์ที่จะต่อยอดจากเหตุการณ์นั้น
คือเล่าปี่จะต้องหาคนอย่างขงเบ้งเพื่อมาช่วยงานตนเองให้บรรลุภารกิจทำงานใหญ่ให้ได้ แม้ว่าเล่าปี่จะแลกด้วยอะไรก็ตามแต่
6.ข้อสรุป
นั่นคือ ทุกๆนที่ได้พบเจอกันบนโลกใบนี้ ไม่มีคำว่าบังเอิญ
ทุกๆคนที่ได้พบเจอกัน ล้วนแต่มีวาสนาต่อกันทั้งสิ้น
ภาพชัด เล่าปี่อยู่แคว้นเกงจิ๋ว อาศัยเล่าเปียวอยู่เป็นเวลาถึง 7-8 ปี ไม่เคยได้พบสุมาเต๊กโช ไม่เคยได้พบผู้มีสติปัญญาอย่างขงเบ้ง บังทอง และนักปราชญ์ที่จะพลิกชีวิตให้เขารุ่งโรจน์ได้เลย
จนเล่าปี่ถูกลอบสังหาร และหนีรอดมาได้จนเล่าปี่ได้พบกับสุมาเต๊กโช
และนั่นจึงเป็นกระดานหกที่ทำให้เล่าปี่ ได้พบกับปราชญ์ผู้พลิกฟ้าพลิกแผ่นดินให้เขาอย่างขงเบ้ง
และก็เป็นขงเบ้งผู้นี้นี่เองที่ช่วยให้เล่าปี่ จากคนทอเสื่อขาย นักรบพเนจรที่อาศัยถิ่นฐานคนอื่นอยู่ไปเรื่อยจนเล่าปี่ได้เป็นฮ่องเต้ในยุคที่แผ่นดินจีนในเวลานั้นมีแต่ความวุ่นวายโกลาหลและภัยสงคราม
…..
บทสรุป
1.ล้ำกว่าความฉลาดคือ เมื่อใช้สมองอีก 90% ที่ยังถูกปิดไว้ จิตใจก็เล็งเห็นสิ่งดีๆชนิดทวีคูณ
เราจะได้ในสิ่งที่คู่ควรกับเราเท่านั้น ไม่ใช่สิ่งที่เราอยากได้
แน่นอนว่าถ้าเล่าปี่เลือกได้ในเวลานั้นก็คงไม่อยากถูกลอบสังหาร
หากแต่พอเล่าปี่ได้พบกับสุมาเต๊กโช
และเป็นกระดานหกจนเล่าปี่ได้พบกับขงเบ้งที่ช่วยให้ภารกิจและอุดมการณ์เล่าปี่เป็นจริงในเวลาต่อมา
เชื่อว่าเล่าปี่ก็คงเลือกที่จะยินดีกับสิ่งที่ไม่ดีที่เกิดขึ้นกับตัว
แน่นอนว่าสิ่งที่เล่าปี่ไม่ต้องการพบเจอกับตัวเองก็คือการลอบสังหารจากชัวมอ
แต่ชีวิตมนุษย์ ทุกอย่างล้วนแต่อนิจจัง ใครเล่าจะรู้ว่า เราจะได้ในสิ่งที่คู่ควรกับเราเท่านั้น ไม่ใช่สิ่งที่เราอยากได้
นั่นคือการที่เล่าปี่ได้พบกับนักปราชญ์ผู้พลิกฟ้าพลิกแผ่นดินอย่างขงเบ้งมาช่วยงาน
2.วันนี้ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณในสิ่งที่คุณไม่อยากได้
ลองถามตัวเองดูว่า มันเลวร้ายถึงขั้นการถูกลอบสังหารแบบเล่าปี่ไหม
หากคำตอบก็คือ ไม่
ยิ้มเย้ยยุทธภพเหอะครับ ช่างแมร่งมันแล้วMove on
เพราะคุณจะได้สิ่งที่คู่ควรกับควรเสมอ ไม่ใช่สิ่งที่คุณอยากได้
3.เพราะอะไรสิ่งใดเกิดขึ้น สิ่งนั้นล้วนดีเสมอ?
ถ้าเรารู้จักพลิกแพลงกลยุทธ์พุทธะเรื่องตาบอดคลำช้าง
ถ้าเรารู้จักพลิกแพลงเรื่อวคิดแบบ6มุมมอง
จะช่วยให้สมองของเราที่ถูกใช้งานเพียง 10% จะช่วยให้สมองคิดได้เต็มที่ เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นถึง100%ได้ง่ายๆ
4.ทักษะการคิดแบบ6มุมมองลองอ่านดูแล้วนำไปพลิกแพลงใช้กับตัวคุณเองนะครับ
สำคัญกว่าหลักการและมากทฤษฎีก็คือ ลงมือทำ
หนุ่มหน้าหนากับม้าแปดตัวมีงานเขียนแบบรูปเล่มแล้ว 2 เล่มไปอ่านแบบมันส์ๆกันได้เลย

หนังสือ " สำเร็จได้ทุกสถานการณ์ ด้วยกลยุทธ์ในสามก๊ก "

ผู้เขียน : กรัณย์พล โตนอก เจ้าของเพจ หนุ่มหน้าหนากับม้าแปดตัว