ภู มิ ธ ร ร ม พ ร ะ โ ส ด า บั น
ตัวอย่างภูมิธรรมทั้งหลายทั้งปวง มันไม่ละกันทั้งหมดตัวอย่างว่าภูมิธรรมพระโสดาบันนี้ ไม่ใช่ว่าละราคะ ละยังไม่ได้ราคะ ยังมีเต็มหัวใจของพระโสดาบัน เหมือนชาวโลกธรรมดาความหลง หลงในกามราคะต่างๆ หลงไหม หลง เหมือนคนทั่วไปเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้จึงว่า พระโสดาบันนั้น เขาละในความโลภตัวเดียว เด็ดขาด หายห่วง ในภูมิธรรมโสดาบัน เขาละเช่นนั้น แต่ราคะตัณหาเหมือนเดิม
แต่ตัณหาที่ว่ามานี้ เขาหาไหม หา เอาไหม เอา ยังมี
ความอยากตัวนี้ เอาความอยากที่มีอยู่นี้ให้เป็นประโยชน์ให้ได้ใจอยากแต่ไม่ยึด มันมีตัวนี้แหละ อยากแต่ไม่ยึด คืออยาก อยากทำ อยากธรรมดาๆ แต่เมื่ออยากแล้วได้มาแล้ว ให้ถือว่าสิ่งที่ได้มาทั้งหมดนั้นเป็นสาธารณะในครอบครัว ไม่ยึด ปล่อย
ความรู้สึกเป็นของของเราไม่มีอยู่ในใจตรงนั้น
แม้แต่ร่างกายเราทุกส่วนในขณะนั้น สมมุติว่า มีคนใดคนหนึ่งจะมาขอลูกตาเรา ให้ได้ไหม ให้ได้ หรือหากมีคนใดจะมาขอหัวใจเรา ให้ได้ไหม ให้ได้ เหมือนกับว่า วัตถุสมบัติให้ได้ทั้งหมดเลย เหตุนั้นจึงว่า เคยอ่านตำราที่พระองค์เจ้าตรัสเอาไว้ว่า ห้ามภิกษุไปขอสิ่งของในผู้บรรลุธรรมพระโสดาบัน อะไร
ก็แล้วแต่ห้ามไปขอ เพราะพวกนี้เขาจะให้หมด ขออะไรก็ได้ ขอตาก็ได้ ขอหัวใจก็ได้ ให้หมด อันนี้คือขอได้ ในช่วงนั้น คนไปตีความหมายว่า พระโสดาบันเป็นผู้เสียสละทั้งหมด ใช่ไหม ใช่ แท้จริงมันไม่เป็นอย่างนั้น คือเสียสละได้ในช่วงขณะบรรลุธรรม
เป็นพระโสดาบัน ครบวาระ ๗ วัน คือภายใน ๗ วัน ห้ามขอเพราะเขาให้หมด
แต่ถ้าต่อไปแล้ว เขาจะตั้งหลักได้แล้วว่า ชีวิตนี้ยังต้องอาศัยสิ่งของพวกนี้อยู่ จะให้เขาก็จะให้ตามมีตามเกิด ตามที่เหมาะสม เหมือนนางวิสาขา พ่อสอนไว้ว่า ให้ของคน ให้สิ่งที่ควรให้ ไม่ให้สิ่งที่ไม่ควรให้ นั้นเรียกว่า การดูแลทรัพย์สินเงินทองต่างๆไม่เป็นคนตระหนี่ถี่เหนียวแต่ให้ตามความเหมาะสม
วัดป่าบ้านค้อ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี
ที่มา : แนวทางสู่พระโสดาบัน
เมื่อวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๑
ณ. ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
เมืองพุทธคยา ประเทศอินเดีย