ประวัติความเป็นมาของ #พระสมเด็จนางพญา ส.ก. ปี2519
>>> ตอนที่ 1 <<<
เมื่อ พ.ศ. 2518 วัดบวรนิเวศวิหาร รื้อกระเบื้องหลังคาพระอุโบสถ ทั้งของวัดบวรฯ เอง และของคณะรังษี (ซึ่งเดิมก็คือวัดบวรรังษี หากภายหลังได้ยุบรวมมาเป็นส่วนหนึ่งของวัดบวรนิเวศวิหาร) แล้วนำกระเบื้องลงมากองไว้ วันหนึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงเสด็จพระราชดำเนินประกอบพระราชพิธีที่วัดบวรฯ ทอดพระเนตรเห็นกระเบื้องเก่าอายุนับร้อยปี ผ่านพิธีกรรมต่างๆ ที่สำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทยมาเนิ่นนาน อบอวนด้วยกระแสพุทธมนต์ที่พระภิกษุทำวัตรเช้า - เย็น ซึมซับพิธีพุทธาภิเษกมาไม่รู้กี่ร้อยกี่พันพิธี
.
ที่สำคัญ คือพระองค์ก็ทรงผนวชภายใต้ร่มเงาของกระเบื้องชุดนี้ก่อนที่จะถูกรื้อลงมา จึงมีพระราาชดำรัสว่า "กระเบื้องมุงหลังคาพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหารนั้น น่าจะทำประโยชน์ได้บ้าง เนื่องจากเป็นของเก่า และสมเด็ดพระสังฆราช เคยประทับอยู่วัดนี้ถึง 3 พระองค์ หากนำไปทำพระผงคงจะดีไม่น้อย"
ด้วยพระราชดำรัสนี้เอง ทำให้คณะพระภิกษุ และกรรมการวัดบวรฯ จึงได้คิดสร้าง พระผงสมเด็จนางพญา ขึ้นรับสนองเสมือนราชโองการ แล้วดำเนินการจัดสร้างทันที ด้วยการนำผงพระราชทาน และผงศักดิ์สิทธิ์ 199 ชนิด มาผสมกับกระเบื้องหลังคาพระอุโบสถดังกล่าว และยังได้ขอพระบรมราชานุญาต อัญเชิญพระปรมาภิไธย "ส.ก." มาประดิษฐานไว้ด้านหลังของ #พระสมเด็จนางพญา ส.ก.
ประวัติความเป็นมาของ #พระสมเด็จนางพญา ส.ก. ปี2519
>>> ตอนที่ 2 <<<
ได้ทราบจากคนเก่าแก่ในวัดมกุฏกษัตริยารามว่า เมื่อสร้าง #พระสมเด็จนางพญา ส.ก. สำเร็จ ทั้ง 2 พิมพ์ คือพิมพ์ใหญ่ และพิมพ์เล็ก ได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในพิธีพุทธาภิเษก เมื่อความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว มีพระราชดำริว่า ควรจะมีพระเครื่องอีกพิมพ์หนึ่ง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแบบพิมพ์ #พระสมเด็จอุณาโลม พิมพ์ใหญ่ และพิมพ์เล็ก ให้นำไปจัดสร้างเพิ่มเติม คณะกรรมการจึงได้นำมวลสารส่วนที่เหลืออยู่ ผสมเข้ากับผงกระเบื้องหลังคาพระอุโบสถทั้งสองของวัดบวรฯ สร้างเป็น พระสมเด็จอุณาโลมขึ้น
.
เมื่อพระสมเด็จนางพญา ส.ก. และ พระสมเด็จอุณาโลม สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกขึ้นอีก 7 วัน ณ พระอุโบสถคณะรังษี วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่ 5-11 ก.ค. 2519 ในวันที่ 12 ก.ค. 2519 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนิน ทรงเจิมสมเด็จนางพญา ส.ก. และ พระสมเด็จอุณาโลม ในเวลา 16.00 น. ณ พระอุโบสถ คณะรังษี วัดบวรฯ
พระสมเด็จนางพญา สก. พิมพ์เล็ก หลวงปู่โต๊ะปลุกเสก ปี 2519-2522
พิธีพุทธภิเษก - หลวงปู่โต๊ะ ปลุกเสกให้ถึง 7 วัน เมื่อสร้างเสร็จเป็นองค์พระแล้ว ได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกขึ้นอีก 7 วัน ณ พระอุโบสถคณะรังษี วัดบวรนิเวศวิหารฯ เมื่อวันที่ 5-11 ก.ค. 2519 รายนามพระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสกและเจริญพุทธมนต์พระสมเด็จพระอุณาโลมทรงจิตลดา - นางพญา สก. 2519 1.
วันจันทร์ 5 ก.ค. 2519 เวลา 17.00 น.
พระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก
1. สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรฯ
2. พระสังวรวิมลเถระ(หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี
3. หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่
4. หลวงพ่อเมตตาหลวง วัดเทพพิทักษ์ฯ นครราชสีมา
5. พระเทพวราลังการ(หลวงปู่ศรีจันทร์) วัดศรีสุทธาวาส จ.เลย
6. พระสุทธิสารโสภณ วัดศรีโพแท่น จ.เลย
7. หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม จ.อุดรธานี
พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ เจริญพุทธมนต์ ๑๐รูป
1. สมเด็จพระวันรัต วัดสังเวชวิศยาราม
2. สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา
3. สมเด็จพระพุทธิวงศมุนี วัดเบญจมบพิธ
4. พระพรหมคุณากรณ์ วัดสระเกศ
5. พระธรรมวราลังการ วัดบุปผาราม
6. พระธรรมวิสุทธาจารย์ วัดพิชัยญาติการาม
7. พระธรรมธีรราชมหามุนี วัดปากน้ำ
8. พระราชสารมุนี วัดเขมาภิรตาราม
9. พระปริยัติเมธี วัดมกุฎกษัตริย์
10. พระอุดมศีลคุณ วัดบุรณศิริมาตยาราม
2. วันอังคาร 6 ก.ค. 2519
พระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก
1. พระสังวรวิมลเถระ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี
2. หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม จ.อุดรธานี
3. พระอาจารย์วัน อุตตโม วัดอภัยดำรงธรรม สกลนคร
4. หลวงพ่ออ่อนสี วัดพระงาม หนองคาย
5. หลวงพ่อมา วัดวิเวกอาศรม ร้อยเอ็ด
6. พระโพธิสังวรเถร (หลวงพ่อฑูรย์) วัดโพธินิมิต ธนบุรี
7. พ่อหลวงเปลื้อง ปญญานโต วัดบางแก้วผดุงธรรม จ.พัทลุง
3. วันพุธ 7 ก.ค. 2519
พระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก
1. พระสังวรวิมลเถระ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี
2. พระอาจารย์วัน อุตตโม วัดอภัยดำรงธรรม สกลนคร
3. พ่อหลวงเปลื้อง ปญญานโต วัดบางแก้วผดุงธรรม จ.พัทลุง
4. หลวงพ่ออ่อนสี วัดพระงาม หนองคาย
5. หลวงพ่ออ่อน วัดประชานิยม กาฬสินธุ์
6. หลวงปู่สี มหาวีโร วัดประชาคมฯ ร้อยเอ็ด
7. หลวงพ่อชา วัดศรีแก่งคร้อ ชัยภูมิ
8. หลวงพ่อชม วัดป่าบ้านบัวค่อม อุดรธานี
9. หลวงพ่อบุญมา วัดอุดมคงคาคีรีเขต
10. หลวงพ่อมา วัดวิเวกฯ ร้อยเอ็ด
4. วันพฤหัสบดี 8 ก.ค. 2519
พระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก
1. พระสังวรวิมลเถระ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี
2. พ่อหลวงเปลื้อง ปญญานโต วัดบางแก้วผดุงธรรม จ.พัทลุง
3. หลวงปู่สี มหาวีโร วัดประชาคมฯ ร้อยเอ็ด
4. หลวงพ่อบุญมา วัดอุดมคงคาคีรีเขต
5. พระอาจารย์สาม วัดป่าไตรวิเวก สุรินทร์
6. หลวงพ่อจ้อย วัดสุวรรณประดิษฐ์ สุราษฎร์ธานี
7. หลวงพ่อบุญรักษ์ วัดคงคาวดี สิชล นครศรีธรรมราช
8. หลวงพ่อเหรียญ วัดป่าอรัญญบรรพต หนองคาย
9. พระอาจารย์บัวพา วัดป่าพระสถิต หนองคาย
5. วันศุกร์ 9 ก.ค. 2519
พระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก
1. พระสังวรวิมลเถระ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี
2. พ่อหลวงเปลื้อง ปญญานโต วัดบางแก้วผดุงธรรม จ.พัทลุง
3. หลวงพ่อพุธ วัดป่าสาละวัน นครราชสีมา
4. หลวงพ่อโชติ วัดภูเขาแก้ว อุบลฯ
5. หลวงพ่อพั่ว วัดบ้านนาเจริญ อุบลฯ
6. พระอาจารย์สมชาย วัดเขาสุกิม จันทบุรี
7. หลวงพ่อจันทร์(อายุ ๑๐๒ปี) วัดนามะตูม ชลบุรี
6. วันเสาร์ 10 ก.ค. 2519
พระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก
1. สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรฯ
2. พระสังวรวิมลเถระ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี
3. หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี สมุทรสงคราม
4. หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี
5. หลวงพ่อเก็บ วัดดอนเจดีย์ สุพรรณบุรี
6. หลวงพ่อสนิท วัดศีลขันธาราม อ่างทอง
7. หลวงพ่อซ้วน วัดลาดใต้ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
7. วันอาทิตย์ 11 ก.ค. 2519
พระเกจิคณาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก ตอนกลางวัน (เวลา 13.00 - 1600 น.) หลวงปู่ธูป วัดสุทรธรรมทาน(วัดแค) กทม. นั่งปรกบริกรรมภาวนาเดี่ยว 4 ชั่วโมงเต็ม ตอนค่ำ
1. สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรฯ
2. พระสังวรวิมลเถระ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี
3. หลวงพ่อซ้วน วัดลาดใต้ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
4. พระอาจารย์ผ่อง วัดสามปลื้ม กทม.
5. หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาฯ ธนบุรี
6. หลวงพ่อสา วัดราชนัดดา กทม.
7. พระครูสงัด วัดพระเชตุพนฯ กทม.
ในวันที่ 12 ก.ค. 2519 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนิน ทรงเจิมและสุหร่าย สมเด็จนางพญา ส.ก.และพระสมเด็จอุณาโลม ในเวลา 16.00 น. ณ พระอุโบสถคณะรังษี วัดบวรฯ
รายนามพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์เจริญชัยมงคลคาถา ๑๐ รูป
1. สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดราชผติการาม
2. พระสาสนโสภณ วัดเทพศิรินทราวาส
3. พระพุทธพจน์วราภรณ์ วัดราชบพิธ
4. พระญาณวโรดม วัดบวรราชนิเวศ
5. พระธรรมปาโมกข์ วัดราชประดิษฐ์
6. พระธรรมเสนานี วัดพระเชตุพนฯ
7. พระธรรมวราภรณ์ วัดนรนาทสุนทริการาม
8. พระเทพวราภรณ์ วัดบุรณศิริมาตยาราม
9. พระเทพปัญญากวี วัดราชาธิวาส
10 พระเทพกวี วัดบวรฯ
พระสมเด็จทรงจิตรลดา และ พระนางพญา ส.ก. นั้น
เป็นพระที่มีเนื้อหามวลสารดีเยี่ยมที่สุดเท่าที่คณะบุคคลจะพึงทำได้
โดยมีมวลสารหลักคือกระเบื้องพระอุโบสถของทั้งสองหลังและยังแสวงหาผงพุทธคุณต่าง ๆ
จากพระเถราจารย์ทั่วประเทศ ซึ่งมีทั้งพระสายกรรมฐานและพระสายวิชา ว่าน-ยา
ที่รวมแล้วมีกว่าพันชนิดมิใช่ 108 ดังที่นิยมทั่วไป แร่ธาตุศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศจากสถานที่ต่าง ๆ
ทุกมุมเมืองเกือบสองร้อยรายการ เส้นเกศาของพระสุปฏิปันโนซึ่งเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปของพุทธศาสนิกชน องค์หลักก็คือ
เส้นพระเกศาของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า
ย้อนยุคขึ้นไปหลายพระองค์
เส้นเกศาของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ หลวงปู่ขาว อนาลโย หลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวัฑฒโน) หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ เป็นต้น










